“อย่าให้คำว่า การแต่งงาน มาเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิต จนลืมไปว่าเหตุใดคุณถึงรักกัน”
มีคู่รักบางคู่พอแต่งงานไปแล้ว
พยายามที่จะปรับรูปแบบการใช้ชีวิต หรือนิสัยของคู่รักตามอุดมคติ
ซึ่งอุดมคติของบางคน จะแสดงออกจากที่แต่งงานแล้ว
ในทางจิตวิทยาคนเรามีแนวโน้มเลียนแบบพฤติกรรม
การแสดงความรักแบบพ่อแม่ของเรา ที่เรารับรู้ในวัยเด็ก โดยที่ไม่รู้ตัว
จนทำให้เผลอที่จะพยายามเปลี่ยนแปลงคนรักเรา หลังแต่งงาน เพื่อให้เหมือนกับที่เราเคยรับรู้ หรือฝังใจมา
ทั้งที่นิสัยหรือการกระทำนั้นของคู่รัก เราก็รับรู้มาก่อนแล้ว
และไม่เคยมีปัญหากันมาก่อน
เมื่อเราพยายามปรับเปลี่ยนคู่รักของเรา หลังแต่งงาน
จนเหมือนลืมไปว่า เราก็เคยชอบกันมาแบบนี้ ยอมรับนิสัยกันมาแบบนี้
จึงทำให้ยากที่จะเกิดความเข้าใจ และเกิดปัญหาได้
แต่การปรับเปลี่ยนก็สามารถเกิดขึ้นได้
ถ้าเกิดจากการร่วมมือจากทั้งสองฝ่าย
เห็นประโยชน์ร่วมกัน และอยากทำด้วยความสมัครใจ
ฉะนั้นคู่รักใดที่ยังไม่แต่งงาน
ก็อยากให้ทำความเข้าใจกันให้ดีว่า
อย่าให้คำว่า “แต่งงาน” มาเป็นคำพูด ที่บังคับให้อีกฝ่าย
ต้องทำอะไร โดยที่ไม่สมัครใจ
ตกลงกันให้ดี พูดคุยกันให้ดี
และระมัดระวังอิทธิพลการเลียนแบบใครโดยที่ไม่รู้ตัว
หรือใครที่แต่งไปแล้ว และรู้สึกว่าเกิดปัญหาไปแล้ว
ก็ลองทบทวนดูให้ดีว่า สิ่งที่เราต้องการเปลี่ยนนี้
เกิดจากอิทธิพลจากใครมาหรือไม่
และหากเป็นสิ่งที่ต้องการปรับ เป็นสิ่งที่ดี ที่จำเป็นต้องปรับจริงๆ
ก็ควรสื่อสารกับคู่รักอย่างให้เกียรติ ให้เวลาในการปรับตัว
และให้เค้าเห็นประโยชน์ร่วมกัน ที่จะตกลงทำด้วยความสมัครใจ
ซึ่งสิ่งนี้จะเป็นการสร้างรักที่ดี และสามารถเติบโตอย่างยืนยาวได้
อย่างที่เคยบอกไว้ในคลิปหนึ่งว่า “รักแท้” เกิดจากความตั้งใจ
ไม่ใช่สัญชาติญาณครับ